รีวิว YAMAHA XMAX 300 จากการใช้งานจริงในเมือง และนอกเมือง เมื่อขยับมา CC มาจาก YAMAHA Nmax 155

YAMAHA XMAX 300 สปอร์ตออโตเมติกพรีเมี่ยม 300cc ปี 2017 ราคา 168,000 บาท

สปอร์ตออโตเมติกพรีเมี่ยม 300cc ถ่ายทอด DNA
ยนตกรรมชั้นนำของ MAX Series ออกมาอย่างลงตัว แรงขึ้นอีกขั้นด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ 300 ซีซี ผสานสมดุลแห่ง
สมรรถนะ การขับขี่ที่สปอร์ตเร้าใจ กับฟังก์ชั่นฉลาดสุดสมาร์ท และสไตลิ่งที่เรียบหรูเหนือระดับเข้าไว้ด้วยกัน
ตามเอกลักษณ์แห่งพันธุกรรมตระกูล MAX

เครื่องยนต์บลูคอร์ (Bluecore) เทคโนโลยีแห่งความแรง และความประหยัด เอกสิทธ์เฉพาะยามาฮ่า
ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ และกระบอกสูบไดอะซิลที่พัฒนาใหม่ เผาไหม้หมดจด ช่วยลดมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มาพร้อมระบบเกียร์ CVT เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้สนุกและเร้าใจในทุกระดับความเร็ว

ไฟหน้า-ไฟท้าย FULL LED ดีไซน์แบบสปอร์ตพรีเมี่ยมทันสมัย
สว่างชัดเจนทุกระยะการมองเห็น เพิ่มวิสัยทัศน์ที่ดีในการขับขี่

Multi-function Meters แผงหน้าปัดรูปทรงสปอร์ต ที่แสดงข้อมูลอย่างชัดเจน
พร้อมจอ LCD บอกสถานะฟังก์ชั่นการขับขี่ได้อย่างครบครัน
*สามารถควบคุมการทำงานของจอ LCD ได้ด้วยสวิทช์ที่แฮนด์ด้านขวาเพียงปุ่มเดียว

Front Storage & ACC Socket ช่องเก็บของด้านหน้าขนาดใหญ่ทั้ง 2 ด้าน
พร้อมช่องเสียบอุปกรณ์ชาร์ตไฟขนาด 12V เพื่ออำนวยความสะดวกในการชาร์ตโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์นำทางในขณะเดินทาง

Smart Key system ระบบกุญแจสมาร์ทคีย์ อัจฉริยะทุกการควบคุม
ที่จะช่วยเพิ่มความเรียบง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในการควบคุมรถทั้งคัน
– สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์
– ปลดล็อคแฮนด์รถ / ปลดล็อคเบาะ / ปลดล็อคฝาปิดถังน้ำมัน
– สัญญาณตอบรับ ANSWER BACK

โช้คหน้าขนาด 33 mm. นุ่มนวลอย่างสมดุล
ช่วยรักษาสมดุลในกับขับขี่ และการเข้าโค้ง เพิ่มความมั่นใจบนท้องถนนทุกการเดินทาง
และดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี พร้อมที่จะมอบความนุ่มนวล สะดวกสบายให้คุณในสไตล์ MAX-Series

เพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกระดับด้วย ระบบเบรก ABS พร้อม Traction Control System (TCS)
ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ในด้านความปลอดภัยด้วยระบบเบรค ABS ช่วยป้องกันล้อล็อคหากเกิดการเบรกกะทันหัน
พร้อม Traction Control System ที่จะช่วยปรับสมดุลกำลังของเครื่องยนต์ เมื่อล้อหน้าและล้อหลังหมุนไม่สัมพันธ์กัน
ข้อมูลจาก : https://www.yamaha-motor.co.th

รีวิว YAMAHA XMAX 300 จากการใช้งานจริง

มาว่ากันด้วยเรื่องการใช้งานจริงกับเจ้าYAMAHA รุ่น XMAX 300 ที่มีความสวยงามพอกันกับ Yamaha Aerox ราคาที่เหมาะสม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพในการขับขี่ ไม่รู้จะเอาไปเทียบกับอะไรให้เห็นภาพกัน เอาเป็นว่า ความรู้สึกที่ได้ขึ้นไปขี่ครั้งแรก มันรู้สึกดีกว่าการขับขี่ มอเตอร์ไซค์ พิกัด 150cc ลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตอนที่ใช้ nmax ก็ยังไม่ได้ต่างจากมอเตอร์ไซค์ 125cc 110cc 100cc แบบชัดเจนขนาดนี้ ทั้งมิติของรถ การเค้าโค้ง และ อัตราเร่ง

เทียบให้ดูความกว้างระกว่าง nmax และ xmax ดูจากช่องกระเบื้อง
 

เรื่องการขับขี่ใช้งานในเมือง ไม่ได้ต่างอะไรจาก Nmax เลย แต่แต่แต่ เข้าโค้งได้ดีกว่า Nmax มากๆ ถึงเจ้า XMAX จะมีก็วงเลี้ยวขอรถมันกว่ากว่านิดนึง ส่วนข้างตัวรถที่ยื่นออกมาต้องระวังนะครับตรงนี้แหละที่ทำให้เวลามุดต้องคอยระวังแต่มันก็ยังไม่ถึงกับไม่สะดวกนะ ผมประมาณว่า ถ้าจะเปลี่ยนช่องทาง โดยที่มีช่องไม่ถึง 1 เมตร น่าจะทำได้ยากกว่า Nmax แต่ถ้าวิ่งตรงๆ ไม่เปลี่ยนเลน สบายครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องกระจกเลย เพราะสูงกว่ารถเก๋งเกือบหมด จะโดนก็พวกรถกระบะ หรือรถตู้ อัตราเร่ง 0-120 เป็นอันตราเร่งที่ดีมาก เร่งแซงทิ้งรถเก๋งวิ่งขวา 90-100 ได้แบบสบายๆ รถวิ่งนุ่มนวลตั้งแต่ออกตัว

เส้นทางที่ใช้ สีลม ประตูน้ำ พระรามเก้า รามคำแหง เรียบมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชล ร่มเกล้าขสุวรรณภูมิ มีนบุรี เพชรเกษม สาธร ช่วงเวลา 7-8 โมง กับ 6โมงเย็น – ทุ่ม ยังไม่มีปัญหาเรื่องการมุดในเมืองเวลารถติดๆเลยเท่าที่ขี่มาไปได้ตลอดแต่เวลาเปลี่ยนเลนจะทำได้ช้ากว่า nmax เพราะคอยหันหลังดูเพื่อความชัวร์

สองรูปต่อไปนี้จะเห็นความยาว nmax เที่ยบกับ xmax ได้อย่างชัดเจน
 

เรื่องเสียงท่อเงียบสบายหูขี่ในหมู่บ้านก็ไม่ได้รบกวนเพื่อนบ้านอันนี้ชอบมากครับ แต่หลายคนไม่ชอบ ก็เปลี่ยนกันไป

เรื่อง Shock up อันนี้อ่านจากรีวิวอื่นๆ จะบอกว่ามันกระด้าง แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามันโอเค ยังไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ในเรื่องของการใช่งานทั่วไป เพราะเจ้าตัวที่ใช้ใช้เดิมๆ ของ Nmax นี่ ลงหลุมทีหน้าสั่น ของ Xmax นุ่มกว่าครับถือว่าใช้งานได้ไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยน ใช้ไปสักประมาณ 1000 กิโลจะเริ่มอยู่ตัวและลดความกระด้างลงไปเยอะครับ

เรื่องไฟของ xmax อันนี้มีเรื่องติของไฟสูงครับ ไฟต่ำปกติสว่างใช้งานได้ดี แต่ไฟสูงมันไม่สูงเลยแทบจะไม่ต่างอะไรจากไฟต่ำ ตำแหน่งมันพอพอกับไฟต่ำนี่แหละครับ พอเจอถนนมืดๆ แย่ครับ อันนี้ มองไม่เห็น ส่วนนี้ต้องเตือนผู้ใช้ที่ใช้รถเวลาค่ำคืนในที่ๆไม่มีไฟส่องส่วงครับ เห็นหลุมอีกทีก็เบรคไม่ทันแล้ว

เรื่องความสูงของตัวรถ อ่า อันนี้เป็นปัญหาใหญ่เลยของคนที่ตัดสินใจจะซื้อรถรุ่นนี้ ตัวผมเองสูง 182 ซึ่งรถเดิมๆขาลงไม่เต็มพื้นเหลืออีกนิดหน่อย เวลารถวิ่งมันก็ปกติครับ เวลาจอดที่ต้องเข็น มันทำได้ยากครับ ขนาดเท้าผมเกือบเต็มยังยาก ถ้ารถอยู่ในที่ลักษณะเนินนี่ ลำบาก ต้องติดเครื่องเอา เข็นบางทีไม่ขึ้น

ขาตั้งคู่ เอาขึ้นง่าย เอาลงต้องระวัง เพราะรถค่อนข้างหนักครับ คนตัวไม่สูงอาจจะไม่มีแรงรั้งกลัมมาถ้าเวลาเอาลงมันเอียงไปอีกฝั่งโดยเฉพาะเวลาพื้นลื้นๆ

การใช้งานรีโม ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ ผมถนัดใช้กุญแตธรรมดามากกว่า เวลาจอดแป๊บๆ ต้องเดินไปปิดรั้ว หรือเปิดรั้ว ต้องบิดมาที่ตำแหน่ง off ไม่งั้นเสียงดัง ใช้มาเดือนนึง ก็ยังลืมอยู่ ลืมทุกวัน หัวเตาแก๊ส เวลาจะเปิดช่องเก็บของซ้ายมือต้องบิดมาที่ตำแหน่ง open ก่อน คือถ้าขี่ๆอยู่จะเปิดช่องซ้ายนี้ทำไม่ได้นะ ต้องดับเครื่องแล้วบิดมาตำแหน่ง open ก่อน มันก็ดีอย่างเสียอย่างเรื่องนี้ คงใช้ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะชินและใช้งานคล่องไปเอง

ท่านั่ง กับตำแหน่งชิวบังลม อันนี้ผมไม่มีปัญหาอะไร จากที่อ่านมามีหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับชิวมันบังตาครึ่งนึง ผมมีปัญหากับชิวตอนช่วงอากาศร้านๆ ลมมันไม่โดน ร้อนมาก แต่เวลาฝนตก โอเคเลยครับ มันตัดลมดีมาก หน้าหนาวก็เช่นกัน

อัตราการกินน้ำมัน ถังแรกผมเติม 91โซฮอล ประมาณ 6 ลิตร 200 บาทไม่เต็มถัง วิ่งได้ 200 กิโล โชว์ค่าเฉลี่ยที่จอ 32 กิโลลิตร
ถังที่ 2 ผมเติม 95 โซฮอล เต็มถัง 340 บาท วิ่งได้ 340 กิโล ค่าเฉลี่ยที่จอโชว์ 33.5 กิโลลิตร
การขับขี่ผมจะขับขี่อยู่ที่ช่วง 90-110 ไม่ค่อยกระแทกเท่าไหร่ไปเรื่อยๆ เร่งแซงเฉพาะจะแซงเท่า top speed ที่เห็นรีวิวกันอยู่ที่ประมาณ 150+ ส่วนตัวผมยังไม่เคยใช้ถึงขนาดนั้น เต็มที่วิ่งแค่ 140 ถือว่ารถทำได้ดี นิ่งและยังรู้สึกปลอดภัย

แผลจากการใช่งาน ช่วงแรกๆ เวลาจะจอดจะเลี้ยวไม่ได้ดูท้าย ท้ายมันใหญ่ ต้องระวังนะครับ ที่โดนมาโดนรถเมล์ทีนึง แล้วตแนจอดเอาขาตั้งลงไปโดนรั้วเหล้กทีนึง ที่เหลือจอดๆไว้ไม่รู้ใครมาโดน
 

เป็นธรรมดาที่ รถใหญ่กว่า จะมีความคล่องตัวน้อยกว่ารถคันเล็ก แต่เอาจริงๆใช้จริงมันก็ต่างกันไม่มากในเรื่องความคล่องจัว แต่ที่ต่างกันแบบรู้สึกได้ชัดเจนคือเรื่องความปลอดภัย ความมั่นใจ และความสะดวกสบายที่บอกได้เลยว่า เหนือชั้นกว่าแบบ เห็นได้อย่างชัดเจน แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงกว่าแบบเห็นได้ชัดเช่นกัน ถ้าตัวผมเองไม่ได้ใช้รถทุกวัน วันละ 80-90 กิโล และใช้ในเส้นทางที่มีแต่รถเร็วๆ ผมว่า nmax ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานครับเพราะตอนใช้ nmax แรกผมก็ว่ารถมันเร็วและอัตราเร่งดี แต่พออยู่ในถนนที่มีแต่รถวิ่ง 90+ กลับไม่ให้ความมั่นใจในเวลาที่จะแซงมากนัก ทั้ง 2 ตัวนี้มีระบบ ABS เหมือนกัน แต่เจ้าตัว xmax ก็เบรคได้มั่นใจกว่า nmax ไปอีก ทั้งๆที่ nmax เมือเทียบกับกับรุ่นอื่นๆในพิกัดเดียวกัน มันก็ทำได้ดีกว่ามากอยู่แล้ว

ส่วนเรื่อง Traction Control System (TCS) ที่มีในตัว xmax300 นั้น จะบอกว่าใช้ตอนหน้าฝน ทั้งเดือนผมก็ยังไม่เคยรู้สึกว่ามันทำงานจริงจังจนกระทั่งวันที่ล้างรถอยู่ในบ้าน แล้วขี่ออกไปซื้อของ ขากลับมาพื้นทางขึ้นยังเปียกอยู่ Traction Control ทำงานมันเหมือนรถสำอึกๆ ทำให้ล้อหลังไม่ปัด ไม่เช่นนั้นวันนั้นอาจจะล้มโชว์หน้าบ้านก็ถือว่ามีประโยชน์ครับ ตัวนี้ถ้าใครไม่ชอบมันกดปิดได้ แต่ผมเน้นใช้งานปลอดภัย เปิดตลอดครับ เคยใช้ nmax ตอนฝนตกไปเติมน้ำมันในปั๊มพื้นขัดมัน ท้ายปัดเกือบล้ม แต่ใช้ xmax ไม่เคยปัดผมว่ามันออกตัวได้นุ่มนวลกว่า nmax ไม่เกี่ยวกับ Traction Control นะครับ

ค่า service Nmax ในการเปลี่ยนถ่ายของเหลวอยู่ที่ประมาณ 250 บาท Xmax อยู่ที่ประมาณ 550 บาท ต่างกันครึ่งนึงเหมือนกันถ้า Xmax ใช้งานเยอะๆในเมืองอย่างเดียวผมว่าไม่คุ้มค่า นอกจากรถจะหนักแล้ว ค่าน้ำมันก็กินมากกว่า คล่องตัวน้อยกว่า ต่า service ก็แพงกว่า แต่ถ้าใช้นอกเมือง ปนในเมืองอันนี้ ผมว่าคุ้มค่าครับ ร้านอะไหล่มอเตอร์ไซค์

อ้อมีอีกข้อนึงที่ต้องบอกให้รู้ ตอนใช้ nmax รถเบายกได้ เวลาจอดมีคนมาจอดซ้อน จอดที่แคบๆ ผมยกเปลี่ยนองศาเอาเอาสบายๆ แต่ xmax อย่าได้ไปจอดที่แคบ งานจะเข้ารถยกไม่ได้หนักมาก เอียงก็ลำบาก เคยจอดที่ตึกที่ทำงานแล้วโดนจอดซ้อนคัน ใช้เวลาขยับรถคันอื่นเพื่อเอารถตัวเองออกอยู่ครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นไม่กล้าเข้าไปจอดในที่แคบๆอีกเลยเข็ด

สุดท้ายนี้ทางผู้รีวิวหลังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่จะตัดสินใจซื้อเจ้า xmax300 คันนี้นะครับ

Yamaha Xmax300 กี่โลลิตร

ลองขับไม่เกิน 90 กม:ชม 1 ถัง มี ถึงร้อยบ้างตอนถนนโล่งจริงๆแต่พยายามไม่ให้เกิน 5500 รอบ
เติมไป 340 บาท วิ่งจนกระพริบ ได้ 370 กิโล
เฉลี่ย 35.5 โลลิตร โลไม่ถึงบาท
เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น 10 – 15 นาที
เติม 95 v power ลิตรประมาณ 32 บาท